Wheatgrass Greenup Farm
คำถามที่พบบ่อย สละเวลาอ่านเพื่อประโยชน์ของลูกค้านะคะ
มีลูกค้าหลายท่าน ที่ไม่เคยทาน และอยากซื้อไปทานกัน มักมีคำถามซ้ำๆต่างๆมากมาย จึงอยากให้ลูกค้าที่เพิ่งรู้จักเจ้าต้นอ่อนข้าวสาลี สละเวลาอ่านข้อมูลตรงนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ และวิธีในดื่มอย่างละเอียด
ต้นอ่อนข้าวสาลี คือ การนำเมล็ดข้าวสาลีที่มีการงอก มาปลูกในวัสดุปลูกจนมีอายุ 7 วัน เป็นระยะเวลาที่มีสารอาหารสมบูรณ์ที่สุด โดยสารอาหารเหล่านี้มาจากเมล็ดทั้งสิ้น เมื่อนำมาคั้นด้วยเครื่องความเร็วรอบต่ำ น้ำคั้นต้นอ่อนข้าวสาลีที่ได้จะมีคุณประโยชน์สูงสุด อุดมด้วยคลอโรฟีลล์ซึ่งเป็นพระเอก ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ทั้งนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเกิดโรคต่างๆได้เ็นอย่างดี
วิธีการทานต้นอ่อนข้าวสาลี ต้องบอกก่อนว่า ต้นอ่อนข้าวสาลีเป็นพืชตะกูลหญ้า กากใยสูง ร่างกายคนเราไม่สามารถย่อยกากเหล่านี้ได้ เพราะฉะนั้นมีทางเดียวคือ บีบคั้นน้ำสีเขียวๆออกมาแล้วดื่ม
วิธีการคั้นน้ำต้นอ่อนข้าวสาลี ที่ได้น้ำคั้นที่มีคุณประโยชน์สูงสุด ที่จะแนะนำ อันดับการแรกคือ การตำ เป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด ตำๆๆและกรองด้วยผ้าขาวบาง บีบให้น้ำออกให้หมด อีกวิธีหนึ่งคือ การใช้ เครื่องความเร็วรอบต่ำ เป็นการบีบอัดไม่ใช้เครื่องปั่นที่เป็นใบมีด รวมทั้งเครื่องแยกกากที่เป็นระบบใบมีดทั้งหลาย เหตุผลคือใบมีดจากเครื่องปั่นเหล่านี้ จะเสียดสีและเฉือนผักผลไม้ด้วยความเร็วสูง มีผลทำให้เกิดความร้อนที่จะทำลายวิตามิน แร่ธาตุ รวมทั้งพระเอกของเรา นั่นคือคลอโรฟีลล์ แทบจะไม่เหลือคุณประโยชน์ใดๆ อีกเหตุผลนึง ครั้นคุณจะทานต้นอ่อนข้าวสาลีสดๆเพียวๆด้วยการปั่น ยิ่งไม่มีทาง เนื่องจากกากใยปริมาณสูง คุณจะต้องใช้ต้นข้าวจำนวนมากเพื่อปั่นให้ได้น้ำออกมา หรือไม่คุณจะต้องผสมน้ำผสมในการปั่นและกรองด้วยผ้าขาวบางอีกที ซึ่งน้ำที่ได้คุณค่าทางอาหารหายไปหมดแน่นอนคะ
วิธีการดื่มเพื่อสุขภาพ วันละ 1 ออนซ์/1 shot /30ml. (หน่วยปริมาตรเท่ากัน) (1ถุง น้ำหนัก 100g คั้นได้ 2 ออนซ์/2 shot/60ml.)
กรณีผู้ป่วยที่ต้องการดื่มเพื่อฟื้นฟูร่างกาย แนะนำ วันละ 2 ออนซ์ เช้า-เย็น
หลายท่านลองทานแบบเพียวๆแล้วมีปัญหาบ้างมั้ยคะ555 เกินครึ่งคะตอบเป็นเสียงเดียวกันเลยคือเรื่องกลิ่นเหม็นเขียว รุนแรงมาก แต่กลืนลงคอไปแล้วรสชาติหวาน ซึ่งขัดกับกลิ่นนั้นโดยสิ้นเชิง แต่ถึงอย่างไรหลายท่านยอมแพ้เจ้ากลิ่นเหม็นเขียวไปแล้ว สุขภาพดีที่อยากได้ สงสัยจะถึงกาลอวสาน ใจเย็นก่อนค่า ทานเพียวๆคือวิธีที่หลายคนหันหลังลงคลองกันเลยทีเดียว งั้นลองมาดูวิธีนี้กันดู..
ลองปรับเปลี่ยนวิธีการทานให้เข้ากับตัวเราดีกว่าคะ จากประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว ผลไม้ที่มีผลให้รสชาติของน้ำคั้นต้นอ่อนข้าวสาลีมีรสชาติดียิ่งข้น แถมทำให้เรารู้สึกสดชื่น กระชับกระเฉง นั่นคือ แอปเปิ้ลเขียว ฝรั่ง น้ำมะพร้าว แล้วแต่ความสะดวกเลยคะ น้ำคั้นต้นอ่อนข้าวสาลี 1/2 ออนซ์ ผสมน้ำผลไม้ให้ได้ 1แก้ว ทานเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง หากทานได้จะค่อยๆปรับเพิ่มน้ำคั้นต้นอ่อนข้าวสาลีเป็น 1 ออนซ์ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ลองเลยคะ
คำถามที่ตามมาคือ และมันจะได้ประโยชน์เท่ากับการทานเพียวๆหรือไม่ อันดับแรก..ทานได้ ได้ทาน ย่อมดีกว่าไม่ทานเลยนะคะ ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่มีปัญหาในเรื่องกลิ่น อาการมวนท้อง คลื่นไส้ พะอืดพะอม ถือว่าคุณได้ไปต่อ แต่ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ และมีความจำเป็นหรืออยากเบนเข็มมาดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง ลองปรับเปลี่ยนวิธีดูนะคะ "ทานต้นอ่อนข้าวสาลีเพื่อสุขภาพอย่างไร ให้ใจสุข" คำพูดนี้สำคัญ อย่างน้อยเราได้นำสิ่งดีๆ เข้าสู่ร่างกายของเราไปแล้ว ไม่มากก็น้อย ขอให้ลูกค้าทุกคน มีความสุขในการดูแลสุขภาพทุกคนกันนะคะ
ในปัจจุบันสภาพสังคมเมืองเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด และการแข่งขันต่างๆ ต้องทำงานหนัก รับประทานอาหารที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย ใช้ชีวิตอย่างหักโหมจนร่างกายไม่มีเวลาพักผ่อน เพื่อแลกกับ เงิน ทอง และสุดท้ายต้องเสียเงินไปกับการรักษาพยาบาล คุณแน่ใจแล้วหรือว่าเหล่านี้คือความสุขที่แท้จริง กับอีกทางเลือกหนึ่ง คุณจำเป็นจะต้องใช้ชีวิตแบบคนเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เลือกที่จะแบ่งเวลา หาเวลาออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และมีบั้นปลายชีวิตที่ดี สิ่งที่ผมเกริ่นมานี้เป็นพื้นฐานความคิดที่ใครๆก็คิดได้ แต่จะทำได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณเองครับ นี่แค่บทนำที่ผมอยากจะบอก
ผมเองได้รับคำถามมากมายจากลูกค้าของผมว่า ต้นอ่อนข้าวสาลี ช่วยในการรักษามะเร็งให้หายขาดได้จริงหรือไม่ บางคนอยู่ในระยะเริ่มต้น บางคนก็ทรุดโทรมลงไปมากแล้ว ผมได้รับรู้ถึงความกังวลใจของทุกๆคนดีครับ แต่อยากจะอธิบายให้ทุกท่านทราบอย่างนี้ครับ ส่วนตัวผมเองไม่เชื่อหรอกนะครับว่า จะมียาหรืออาหารวิเศษใดๆที่กินเข้าไปแล้วจะหายเป็นปลิดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ ..ใจเย็นก่อนครับ อ่านมาขนาดนี้แล้วอ่านให้จบครับ ผมไม่ได้ต้องการตัดกำลังใจกันนะครับ ขอแทรกความรู้ เล่าสู่กันฟังซักนิด โรคที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เราเรียกโรคกลุ่มนี้ว่า NCD (Non-Communicable diseases) คือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค ไม่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ แต่เป็นโรคที่เกิดจากนิสัยและพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบผิดๆ ซึ่งจะมีการดำเนินโรคอย่างช้าๆ ค่อยๆสะสมอาการอย่างต่อเนื่อง แค่ชื่อโรคก็บอกถึงสาเหตุของการเกิดอย่างชัดเจนแล้วนะครับ เพราะฉนั้นทางแก้มีทางเดียวครับ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต กินอย่างถูกต้อง พักผ่อนอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ที่สำคัญคือการบริหารจิตใจไม่ให้เกิดความเครียด มองโลกอย่างที่มันควรจะเป็น น้ำคั้นต้นอ่อนข้าวสาลี ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง ที่มีคลอโรฟีลล์สูง เต็มไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ สามารถเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายได้
ทั้งหมดที่อธิบายมา อ่านดูแล้วเหมือนไม่มีอะไรใช่มั้ยครับ เหมือนจะง่าย แต่ทำยาก แต่ต้องทำให้ได้ครับ อย่างไรก็ตาม ผมขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะครับ สำหรับคนที่ยังไม่ป่วย อย่ารอให้ป่วย หันมาดูแลสุขภาพกันให้มากข้น ลองทบทวนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคุณ และค่อยๆปรับเปลี่ยนไปในเชิงบวก คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง อย่าเพิ่งเชื่อครับ ต้องลงมือทำก่อน สู้ๆครับ ขอเป็นกำลังใจให้ลูกค้าทุกๆคน ดูแลสุขภาพไปด้วยกันครับ
สินค้าทั้งหมด
-
"ไม่ใช่เมล็ดไทย บอกเลย เราไม่ขาย" เมล็ดข้าวสาลี พันธุ์ฝาง 60 เหมาะกับสภาพภูมิอากาศบ้านเรา และทนทาน...
-
ต้นอ่อนข้าวสาลีปลอดสาร 100% บรรจุถุงซิปล็อคน้ำหนัก 100กรัม สามารถคั้นได้ 2 shot หรือ 2 ออนซ์ (ุ60 มิ...
-
ชุดปลูกต้นอ่อนข้าวสาลี ประกอบด้วย วัสดุปลูก เมล็ดพันธุ์ กล่องปลูก และวิธีการปลูก เหมาะสำหรับลูกค้าม...
-
*ต้นอ่อนข้าวสาลีจะมีอายุนับจากวันที่ปลูกลงดิน ประมาณ 8 วัน ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ร้อน ไม่กลางแจ้ง เหม...
วิธีการปลูกต้นอ่อนข้าวสาลี
1.นำเมล็ดมาล้างและแช่น้ำ แช่ทิ้งไว้ประมาณ 12-16 ชม. ระยะเวลาขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละช่วงเวลา ถ้าอากาศเย็นมาก อัตราการงอกจะช้ากว่าปกติ ก็ต้องเพิ่มเวลาในการแช่น้ำ
2.เทน้ำทิ้ง ห่อด้วยผ้าขาวบาง สังเกตจมูกข้าวจะมีตุ่มเล็กๆ งอกขึ้นมา ก็สามารถนำไปปลูกได้
3.โรยบนภาชนะที่มีขุยมะพร้าว โดยไม่ต้องเอาดินกลบด้านบน
4.รดน้ำด้วยฝักบัว ให้ชุ่ม และนำผ้ามาคลุมเพื่อควบคุมความชื้น นับวันลงปลูกวันแรก เป็นวันที่0
5.เช้าวันถัดมา อายุ1วัน เปิดผ้าคลุม รดน้ำ และปิดผ้าอีก1วัน
6.เช้าวันถัดมา อายุ2วัน เปิดผ้าให้รับแสง ไม่ต้องนำมาวางตากแดด แค่มีอากาศถ่ายเท แสงรำไรก็เพียงพอแล้ว
7.หลังจากนี้รดน้ำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง ตอนเช้า ควบคุมความชื้นให้เหมาะสม เช่น ฤดูฝนมีความชื้นสูง หลังจากเปิดผ้าคลุมแล้ว ไม่จำเป็นต้องรดน้ำให้ชุ่มมาก เพราะมีผลทำให้เกิดการเน่าได้ง่าย
8.ต้นอ่อนข้าวสาลี เมื่อมีอายุครบ 6-7 วัน สามารถเก็บเกี่ยวได้โดยใช้กรรไกรตัดเหนือโคนเล็กน้อย ในขั้นตอนนี้ต้องมีการตรวจสิ่งแปลกปลอม
9.ล้างทำความสะอาดเอาเศษวัสดุปลูกออกให้หมด
10.บรรจุลงถุงซิปล็อค หรือลูกค้าตัดเองที่บ้าน สามารถบรรจุใส่กล่องล็อคอากาศได้คะ จะช่วยรักษาความสดได้ดี